บ่อน้ำแห่งคำสาบาน
เรื่องราวของอีวา เด็กสาวผู้เดินทางไปยังบ่อน้ำโบราณเพื่อขอพร แต่ต้องเผชิญกับราคาที่ต้องจ่ายเมื่อเธอทำสัญญากับบ่อน้ำ

- TAI
- อ่าน 4 นาที

เรื่อง: บ่อน้ำแห่งคำสาบาน
ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาลึก ซึ่งถูกปกคลุมด้วยป่าทึบ มีตำนานเล่าขานกันมานานเกี่ยวกับบ่อน้ำโบราณที่ซ่อนอยู่ในป่า บ่อน้ำนี้ว่ากันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนในอดีตมักจะมาขอพร แต่พรใดก็ตามที่ขอไปจะต้องจ่ายราคาที่สูงมาก ไม่มีใครในหมู่บ้านกล้าไปที่บ่อน้ำอีกต่อไป นอกจากเด็กสาวคนหนึ่งชื่อ “อีวา”
อีวาเป็นเด็กสาวที่กล้าหาญและชอบสำรวจป่า เธอไม่เคยเชื่อเรื่องราวที่ผู้ใหญ่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับบ่อน้ำ เธอรู้สึกว่ามันเป็นเพียงนิทานที่พวกผู้ใหญ่สร้างขึ้นมาเพื่อห้ามเด็กๆ จากการหลงเข้าไปในป่าลึก แต่สิ่งที่กระตุ้นความอยากรู้ของเธอมากที่สุดคือคำเล่าขานว่า ถ้าคุณขอพรจากบ่อน้ำและยอมจ่ายราคาที่บ่อน้ำต้องการ ความปรารถนาของคุณจะเป็นจริง
วันหนึ่ง หลังจากที่อีวาได้ยินข่าวจากพ่อแม่ว่าไร่ของครอบครัวเริ่มให้ผลผลิตน้อยลงเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าจะขาดทุน อีวาจึงตัดสินใจว่าเธอจะออกไปตามหาบ่อน้ำ เพื่อขอพรให้ครอบครัวของเธอหลุดพ้นจากความลำบาก เธอไม่บอกใครและออกเดินทางเข้าสู่ป่าที่มืดมนในช่วงรุ่งเช้า โดยเชื่อว่าเธอจะสามารถหาบ่อน้ำโบราณนั้นได้
การเดินทางของอีวาเริ่มต้นอย่างง่ายดายในช่วงแรก เธอเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ที่คุ้นเคย ร้องเพลงเล็กๆ ในใจเพื่อให้รู้สึกไม่เหงา แต่ยิ่งเธอเดินลึกเข้าไปในป่า บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป ต้นไม้เริ่มบิดเบี้ยวและสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเงามืดที่ปกคลุมพื้นดิน มีเพียงเสียงใบไม้เสียดสีที่ดังขึ้นเป็นระยะ

หลังจากเดินทางมาหลายชั่วโมง อีวาก็พบกับทางเดินเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์และพืชป่าที่หนาทึบ เธอรู้ว่ามันต้องนำไปสู่สถานที่ที่ไม่มีใครในหมู่บ้านกล้าผ่านเข้าไป อีวากลั้นใจและเดินต่อไปจนกระทั่งเธอได้ยินเสียงน้ำหยดเบาๆ จากทางด้านหน้า
บ่อน้ำโบราณตั้งอยู่กลางพื้นที่ว่างในป่าทึบ มันมีหินโบราณล้อมรอบ และน้ำในบ่อนั้นดูนิ่งสนิทจนเธอแทบไม่เห็นการเคลื่อนไหวใดๆ เธอเดินเข้าไปใกล้และรู้สึกได้ถึงลมเย็นที่พัดมาจากบ่อน้ำ ทั้งที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่รอบๆ
เมื่ออีวามองลงไปในบ่อน้ำ เธอเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง เธอรู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่าง มันไม่ใช่เพียงแค่การมองเห็นตัวเองในบ่อน้ำ แต่มันเหมือนกับว่าบ่อน้ำนั้นกำลังจ้องมองกลับมาที่เธอ
“เจ้ามาที่นี่เพื่อขอพรหรือไม่?” เสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ ราวกับกระซิบจากน้ำ
อีวาก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ แต่เธอก็ตอบด้วยเสียงที่มั่นคงว่า “ข้ามาที่นี่เพื่อขอพรให้ครอบครัวของข้า หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก”
เสียงนั้นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาอย่างเยือกเย็น “พรของเจ้าจะเป็นจริง แต่เจ้าต้องจ่ายราคาที่เจ้าคาดไม่ถึง เจ้าพร้อมหรือไม่?”
อีวาลังเล เธอรู้ว่าตำนานเกี่ยวกับบ่อน้ำนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าเพื่อขู่เด็กๆ แต่ความปรารถนาของเธอเพื่อช่วยครอบครัวก็ทำให้เธอไม่สามารถถอยหลังกลับได้
“ข้าพร้อม” เธอตอบเสียงดัง
ทันใดนั้น บ่อน้ำก็เปล่งแสงสว่างวาบขึ้น และน้ำในบ่อน้ำเริ่มหมุนวนช้าๆ ราวกับมีพลังบางอย่างกำลังปลุกขึ้นมา เสียงกระซิบในสายลมกลับมาดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าจะรู้จักราคาของพรนี้ในเวลาอันใกล้”
หลังจากที่บ่อน้ำสงบลง อีวารู้สึกได้ถึงพลังที่เปลี่ยนแปลงในตัวเธอ แต่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร เธอตัดสินใจเดินทางกลับหมู่บ้านด้วยความหวังว่าพรที่เธอขอจะช่วยให้ครอบครัวของเธอผ่านพ้นปัญหาไปได้
แต่เมื่ออีวากลับมาถึงหมู่บ้าน เธอพบว่าสิ่งต่างๆ เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ไม่คาดคิด พืชผลในไร่ของครอบครัวเติบโตเร็วเกินกว่าที่เคยเป็น และทุกคนในหมู่บ้านต่างพากันพูดถึงความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในไร่ของอีวา แต่พร้อมกับสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในไร่ อีวาก็เริ่มรู้สึกถึงความแปลกประหลาดในตัวเอง
เธอเริ่มเห็นเงาดำในมุมของสายตา เสียงกระซิบที่เธอเคยได้ยินจากบ่อน้ำกลับมาดังขึ้นทุกคืน และในที่สุดเธอก็เริ่มเห็นเงาของตนเองในน้ำที่ไม่ใช่แค่เงาอีกต่อไป เงานั้นมีชีวิตและเริ่มสะท้อนถึงความกลัวและความเจ็บปวดในตัวเธอเอง
เงานั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในทุกๆ คืน อีวาจะฝันเห็นเงานั้นที่ค่อยๆ คืบคลานออกมาจากน้ำ มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพสะท้อนอีกต่อไป แต่กลายเป็นบางสิ่งที่มีชีวิต และเธอรู้สึกได้ว่ามันคอยติดตามเธออยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่เธอมองไปในแอ่งน้ำ หรือแม้กระทั่งถังน้ำในบ้าน เงานั้นจะปรากฏขึ้นเสมอ
เวลาผ่านไป ความเจ็บปวดเริ่มเกิดขึ้นกับร่างกายของอีวา ราวกับว่าพลังที่เธอขอจากบ่อน้ำกำลังดูดพลังชีวิตของเธอไปทีละนิด อีวาพยายามไม่แสดงออกให้ครอบครัวเห็น เพราะเธอรู้ว่าพวกเขาดีใจที่ผลผลิตจากไร่ของพวกเขาเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวของเธอไม่เคยมีชีวิตที่ดีเช่นนี้มาก่อน แต่ทุกครั้งที่เธอสัมผัสกับความสุขที่ครอบครัวของเธอมี เธอก็รู้สึกถึงราคาที่เธอต้องจ่ายในทุกๆ วัน
วันหนึ่ง ขณะที่อีวากำลังตักน้ำจากบ่อในบ้าน เธอเห็นเงานั้นชัดเจนกว่าเดิม มันไม่ใช่เงาของเธออีกต่อไป แต่กลายเป็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นตัวตนอีกด้านหนึ่งของเธอ หญิงสาวในเงานั้นยิ้มเยาะและกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้สิ่งที่ต้องการโดยไม่สูญเสียอะไรเลยหรือ?”
อีวาตกใจและถอยหลังออกมา เธอถามด้วยเสียงสั่นว่า “เจ้าต้องการอะไรจากข้า?”
หญิงสาวในเงานั้นหัวเราะเบาๆ “ข้าคือราคาที่เจ้าต้องจ่าย เจ้าสละส่วนหนึ่งของวิญญาณของเจ้าให้กับบ่อน้ำ และตอนนี้ข้าจะค่อยๆ กลืนกินมันจนกว่าเจ้าจะไม่มีตัวตนอีกต่อไป”
อีวาตระหนักได้ว่าคำสาบานที่เธอให้ไว้กับบ่อน้ำนั้นไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่น พรที่เธอได้รับนั้นมาพร้อมกับราคาที่เธอต้องจ่ายด้วยชีวิตและจิตวิญญาณของเธอเอง
เธอตัดสินใจที่จะกลับไปที่บ่อน้ำเพื่อต่อรองและหาทางออกจากคำสาบานนี้ อีวาออกเดินทางอีกครั้งเข้าสู่ป่าลึก ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวังว่าเธอจะสามารถแก้ไขสิ่งที่เธอได้ทำลงไป

เมื่อเธอกลับมาถึงบ่อน้ำโบราณในป่าทึบ บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด น้ำในบ่อน้ำยังคงนิ่งสนิทเหมือนเดิม แต่คราวนี้ไม่มีเสียงกระซิบใดๆ จากน้ำ มีเพียงเงาของเธอที่สะท้อนกลับมา และในเงานั้น หญิงสาวผู้ชั่วร้ายยังคงยืนยิ้มอยู่
“ข้าไม่ต้องการพรนี้อีกต่อไป!” อีวาตะโกนด้วยความสิ้นหวัง “ข้าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อขอให้เจ้าปล่อยข้า!”
อีวารู้สึกหนาวเหน็บจนถึงกระดูก แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถส่งต่อคำสาปนี้ให้กับใครได้ เธอไม่สามารถทนเห็นใครตกอยู่ในความทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับเธอ
เธอตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับโชคชะตาของตัวเองแทนการหนี เธอยืนมองเงาของตัวเองในบ่อน้ำ และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ข้าจะไม่ส่งต่อคำสาปนี้ให้ใคร ข้ายอมรับผลที่ตามมา ข้าจะเผชิญกับสิ่งที่ข้าได้ทำลงไป”
ทันใดนั้น บ่อน้ำก็สั่นสะเทือน น้ำในบ่อเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในเงานั้นหายไปในทันที และอีวารู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่ค่อยๆ กลืนกินเธอเข้าไป แต่แทนที่จะกลายเป็นเงาแห่งความมืด อีวากลับรู้สึกถึงความเบาสบายที่เข้ามาแทนที่ เธอไม่ได้สูญเสียวิญญาณของเธออย่างที่คิด แต่กลับได้รับการปลดปล่อยจากคำสาบานนั้น
บ่อน้ำค่อยๆ หยุดหมุน และทุกอย่างกลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง อีวารู้ว่าเธอได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เธอเดินกลับไปยังหมู่บ้านด้วยหัวใจที่เป็นอิสระ แม้ว่าผลผลิตของครอบครัวจะไม่ดีเท่าเดิมอีกต่อไป แต่เธอก็รู้ว่าความสุขที่แท้จริงไม่ได้มาจากการหลีกเลี่ยงความลำบาก แต่มาจากการยอมรับความเป็นจริงและอยู่กับความสุขที่มีอยู่แล้ว
เรื่องราวของอีวาจบลงด้วยการเรียนรู้ที่จะยอมรับผลของการตัดสินใจ และเข้าใจว่าความสุขที่แท้จริงนั้นไม่สามารถได้มาง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียอะไรไปเลย
- แท็ก:
- นิทาน
- ผจญภัย
- แฟนตาซี
- ความปรารถนา